หลายคนคงรู้จักกับ QE (Quantitative Easing) ซึ่งเป็นนโยบายผ่อนปรนเชิงปริมาณทางการเงิน โดยสรุปแล้ว QE ก็คือการยืมเงินในอนาคตมาใช้ก่อนด้วยการพิมพ์ธนบัตรที่ไม่มีทุนทรัพย์รับรองแล้วนำไปอัดฉีดในระบบ ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้เฉพาะในประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ มีนโยบายทางการเงินรูปแบบใหม่เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของตนชื่อว่า QT (Quantitative Tightening) การกระชับเชิงปริมาณ ซึ่งมีลักษณะตรงกันข้ามกับ QE
QT เป็นสภาวะที่ธนาคารใหญ่ของหลาย ๆ ประเทศ หรือประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและรัสเซียร่วมกันขายเงินดอลล่าที่ตนเองเก็บไว้อยู่ในคลังออกมาเพื่อ ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินในประเทศตนเองมีค่าอ่อนลง และแน่นอนว่าเมื่อค่าเงินของประเทศตนเองก่อนลงนั้นก็จะมีผลดีต่อการส่งออกและสภาพคล่องทางการค้ามากในระดับหนึ่ง ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธนาคารของจีนก็ใช้วิธีการทาง QT นี้เพื่อลดค่าเงินหยวนให้ต่ำลง แต่ก็ยังคอยควบคุมความผันผวนของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้อ่อนลงมากเกินไปจนกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมและกลายเป็นปัญหาเงินทุนไหลออกนอกประเทศ
วันนี้ไปหลายประเทศและหลาย ๆ กองทุนยักษ์ใหญ่เริ่มเทขายเงินทุนสำรองในสกุล USD และอีกหลายสกุลเงินที่ไม่มีทรัพย์สินรองรับ แต่กลับไปใช้รูปแบบมาตรฐานทองคำแบบเดิมซึ่งนี่อาจจะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าเงินสกุล US Dollar กำลังจะหมดค่าไปในอีกไม่ช้า เพราะในปัจจุบันนี้เงินสกุลดอลลาร์ไม่ได้ผูกติดกับมาตรฐานทองคำและสหรัฐอเมริกายังมียอดหนี้สาธารณะเกือบ 1000 ล้านล้านดอลลาร์แลกด้วย