ในปัจจุบันนี้หลายคนต่างพูดกันไปในทิศทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังย่ำแย่และทรุดตัวไปอย่างรวดเร็วโดยเราจะนำไปเปรียบเทียบกับวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งที่เกิดเมื่อ พ.ศ. 2540
ในปี 2540 หรือวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งนั้นระบบเศรษฐกิจของไทยเกิดความล้มเหลวมีสภาพพังครืนลงมาในระดับที่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นอยู่ ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งนั้นเพราะว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงนั้นจากที่ทุกอย่างกำลังไปด้วยดีกลับทางพังลงมาในชั่วข้ามคืน เปรียบเสมือนกับเราทำต้มยำกุ้งที่ต้มน้ำให้เดือดและโยนวัตถุดิบต่าง ๆ ลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งวิกฤตทางเศรษฐกิจในครั้งนี้มีเหตุผลมาจากการบริหารนโยบายทางการเงินที่ผิดพลาดของตัวรัฐบาลเองที่มีการอุ้มค่าเงินให้คงตัวอยู่เสมอจนเกิดการเก็งกำไรระหว่างการแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศเกิดขึ้น
ส่วนในปีนี่ก็มีนักวิเคราะห์หลายคนตั้งข้อสังเกตว่ากำลังจะเกิดวิกฤตการณ์ต้มกบซึ่งเปรียบเสมือนกับการต้มน้ำค่อย ๆ ร้อนกว่ากบจะรู้สึกตัวก็สายเกินไปเสียแล้วเปรียบเสมือนกับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันที่ค่อย ๆ ล่มสลายไปทีละเล็กทีละน้อยจะสังเกตเห็นว่ามีห้างร้านค้า โรงงาน ปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีธุรกิจหรือช่องทางเศรษฐกิจเปิดใหม่ขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวขึ้นมาดีมากนัก
สำหรับเศรษฐกิจในปี 2563 นี้มีนักวิเคราะห์หลายคนต่างบอกว่าปัญหาที่ตามมาในช่วงท้ายปีจะมีความรุนแรงมากขึ้นอีก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุเศรษฐกิจของโลกที่ชะลอตัวประกอบกับเสถียรภาพในการปกครองของประเทศไทยเองซึ่งทำให้นักลงทุนจำนวนมากต่างย้ายฐานผลิตที่เคยอยู่ในประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน